Château La Tour Figeac
กันยายน 7, 2021Château Léoville-Las Cases
กันยายน 7, 2021Lorem ipsum dolor sit amet, consectetur adipiscing elit. Ut elit tellus, luctus nec ullamcorper mattis, pulvinar dapibus leo.
Château Le Gay กับประวัติศาสตร์และที่มาของไวน์ยอดนิยม
“ไวน์” คือเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ที่สร้างมหัศจรรย์ตั้งแต่ขั้นตอนการสร้าง โดยเริ่มจากการที่เรารู้จักการใช้องุ่นนำมาหมักจนสามารถสร้างเครื่องดื่มที่มีความอร่อย และถูกใช้ในกลุ่มของชนชั้นสูงมานับตั้งแต่สมัยโบราณแทนการใช้เบียร์ที่เคยใช้มาก่อนเนิ่นยุคนาน จนถึงกับมีเทพเจ้าไวน์เป็นของตนเองเลยทีเดียว ความวิเศษของมันถูกผลิตซ้ำออกมาอย่างยาวนาน ยิ่งวัตถุดิบที่หาได้ยากบวกกับเวลาในการผลิตที่มาก จึงทำให้ไวน์กลายเป็นเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ที่มีราคาสูงมากพอที่จะทำให้ผู้ที่ต้องการลิ้มรสมันจะต้องจ่ายมันด้วยราคาที่แพงลิบลิว แต่ก็คุ้มค่าพอที่จะลองรสชาติของความแปลกใหม่ที่มีการผลิตออกมา เครื่องดื่มดังกล่าวนี้เริ่มเป็นที่นิยมอย่างมาก โดยเฉพาะในฝั่งของยุโรปซึ่งเป็นดินแดนที่มีพืชพันธุ์ผลไม้สมบูรณ์ รวมไปถึงองุ่นด้วย นั่นจึงทำให้แถบนี้ง่ายดายต่อการผลิตองุ่นอย่างมาก ส่งผลทำให้ในยุคสมัยต่อมา การผลิตไลน์จึงเป็นเรื่องที่มีอยู่แพร่หลายในยุโรป โดยยังคงเสน่ห์ของมันด้วยช่วงเวลาของการหมักและราคาที่เพิ่มขึ้นตามเวลาการหมักนั้น ๆ และหนึ่งในยี่ห้อไวน์ที่ขึ้นชื่ออย่างมากในยุโรปคือ Château Le Gay
พื้นที่ขนาด 10.5 เฮกตาร์หรือ 65.6 ไร่ที่ไม่เหมือนใคร ซึ่งในไร่นั้นประกอบไปด้วยองุ่นพันธุ์แมร์โลนัวร์ถึง 90% และกาแบร์เน-ฟรองถึง 10% รวมไปถึงเถาองุ่นที่มีอายุเฉลี่ยถึง 40 ปี คือความพิเศษที่ Château Le Gay ได้ประจักษ์ให้ผู้คนมากมายได้รับชม ซึ่งที่มาของไวน์นี่ห้อนี้นั้น ยังไม่เป็นที่ประจักษ์แน่ชัด ถึงแม้จะพยายามตรวจสอบจากคฤหาสน์ Chateau La Fleur du Gay, Chateau La Croix du Gay และ Chateau Vrau Croix du Gay แล้วก็ตาม แต่คาดว่าต้องเกี่ยวข้องกับบุคคลสำคัญทางประวัติศาสตร์อย่างแน่นอน แต่ถึงกระนั้น มีอยู่จุดหนี่งที่เป็นที่ประจักษ์ชัดอย่างชัดเจนคือ ในช่วงศตวรรษที่ 18 นี้ ดินแดนแห่งนี้เป็นของ Louis-Leonard Fontemoing ซึ่งตระกูลของเขานั้นเป็นพ่อค้าคนกลางและเจ้าของที่ดินมากมายในเขตแซ็งเมลียงและ Pomerol แต่หลังจากนั้นก็ตกเป็นของตระกูล Greloud ในกลางศตวรรษที่ 19 ที่ดินแห่งนี้ถูกขายและโยกย้ายเจ้าของมาอย่างยาวนานและผ่านมือไปหลายตระกูลหลากครอบครัว จนกระทั่งเมื่อหลังสงครามโลกครั้งที่ 1 ที่ดินแห่งนี้ได้ตกเป็นสมบัติของตระกูล Robin มาถึง 6 ทศวรรษ และยังได้รับการจัดการจาก Jean Pierre Moueix ซึ่งเป็นผู้ผลิตและจัดจำหน่ายไวน์ในช่วงนั้น นั่นจึงถือว่าเป็นจุดเริ่มต้นของการทำไวน์ในที่แห่งนี้ จนมาถึงในปี ค.ศ. 2001 ที่ดินแห่งนี้ถูกซื้อไปโดย แคทเธอรีน แปร์-แวร์จ ซึ่งตอนนั้นเธออยู่ในวัย 60 ปี ซึ่งประกอบธุรกิจเกี่ยวกับเครื่องแก้ว ซึ่งครอบครัวของเธอนั้นเป็นผู้ดูแลการผลิตแก้วคริสตัลที่ใหญ่ที่สุดในโลก ซึ่งตัวแคทเธอรีนนี้เอง ที่ได้เริ่มเรียนรู้วิธีการผลิตไวน์ขึ้นมาอย่างจริงจัง และเริ่มลงทุนลงแรงหลายอย่างเพื่อที่จะทำให้การผลิตไวน์นั้นเป็นไปอย่างราบรื่น เพื่อต่อยอดความสำเร็จดังกล่าว จนกระทั่งเมื่อเธอสิ้นลมไปในปี ค.ศ. 2013 จึงทำให้ที่แห่งนี้เป็นมรดกต่อ Henri Parent ลูกชายของเธอเอง ซึ่งได้สืบทอดธุรกิจนี้ต่อ จนทำให้ Château Le Gay สามารถประสบความสำเร็จอย่างมากมาย
หนึ่งในผลผลิตของ Château Le Gay ที่สำคัญคือ Château Le Gay Pomerol ซึ่งถูกผลิตในช่วงปี ค.ศ. 1940-1950 ซึ่งถือว่าเป็นตำนานของ Château Le Gay มาอย่างยาวนาน โดยเฉพาะในช่วงปี ค.ศ. 1970 และ 1980 (ยกเว้นปี ค.ศ. 1982) ที่ได้ถูกพัฒนาให้มีความสวยงาม จนกระทั่งในปี ค.ศ. 2005