Château Durfort-Vivens Margaux (Grand Cru Classé)

Dufort-Vivens ไวน์ร้อยปีอันงดงามแห่งบอร์โดซ์

      “ไวน์” คือเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ที่สร้างมหัศจรรย์ตั้งแต่ขั้นตอนการสร้าง โดยเริ่มจากการที่เรารู้จักการใช้องุ่นนำมาหมักจนสามารถสร้างเครื่องดื่มที่มีความอร่อย และถูกใช้ในกลุ่มของชนชั้นสูงมานับตั้งแต่สมัยโบราณแทนการใช้เบียร์ที่เคยใช้มาก่อนเนิ่นยุคนาน จนถึงกับมีเทพเจ้าไวน์เป็นของตนเองเลยทีเดียว ความวิเศษของมันถูกผลิตซ้ำออกมาอย่างยาวนาน ยิ่งวัตถุดิบที่หาได้ยากบวกกับเวลาในการผลิตที่มาก จึงทำให้ไวน์กลายเป็นเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ที่มีราคาสูงมากพอที่จะทำให้ผู้ที่ต้องการลิ้มรสมันจะต้องจ่ายมันด้วยราคาที่แพงลิบลิว แต่ก็คุ้มค่าพอที่จะลองรสชาติของความแปลกใหม่ที่มีการผลิตออกมา เครื่องดื่มดังกล่าวนี้เริ่มเป็นที่นิยมอย่างมาก โดยเฉพาะในฝั่งของยุโรปซึ่งเป็นดินแดนที่มีพืชพันธุ์ผลไม้สมบูรณ์ รวมไปถึงองุ่นด้วย นั่นจึงทำให้แถบนี้ง่ายดายต่อการผลิตองุ่นอย่างมาก ส่งผลทำให้ในยุคสมัยต่อมา การผลิตไวน์จึงเป็นเรื่องที่มีอยู่แพร่หลายในยุโรป โดยยังคงเสน่ห์ของมันด้วยช่วงเวลาของการหมักและราคาที่เพิ่มขึ้นตามเวลาการหมักนั้น ๆ และหนึ่งในชนิดไวน์ที่ขึ้นชื่ออย่างมากในยุโรปคือ Dufort-Vivens

     Durfort Vivens ได้ถูกก่อตั้งขึ้นในปี ค.ศ. 1824 ซึ่งชื่อของไร่และไวน์จากไร่แห่งนี้ เป็นการนำส่วนที่สองของชื่อของเจ้าของในขณะนั้น นั่นก็คือ Viscount of Vivens นั่นเอง ซึ่งในยุคสมัยนั้น ถือว่าได้รับความนิยมเป็นอย่างมาก และยังมีราคาสูงกว่าไวน์บอร์โดซ์อื่น ๆ อย่างยิ่ง ถึงขนาดที่ว่า โธมัส เจฟเฟอร์สัน เอกอัครราชทูตอเมริกันประจำฝรั่งเศสและประธานาธิบดีในอนาคตของสหรัฐอเมริกา ซึ่งเป็นนักเลงไวน์    บอร์โดซ์ ได้ชื่นชมความเอร็ดอร่อยของรสชาติของไวน์ชนิดนี้ ซึ่งในปัจจุบัน ทรัพย์สินและที่ดินแห่งนี้เป็นถูกจัดการและบริหารโดยครอบครัว Lurton มาตั้งแต่ปี ค.ศ. 1961 ก่อนยุค Lurton และมี Gonzague Lurton ซึ่งเข้าครอบครองที่ดินตั้งแต่ปี ค.ศ. 1992 ได้เข้ามาบริหารไร่องุ่นแห่งนี้มาจนถึงทุกวันนี้ และสถานที่แห่งนี้ยังได้รับการปรับปรุงให้ทันสมัยด้วยห้องใต้ดินใหม่และถังหมักที่มีคุณภาพอย่างยิ่ง และไร่องุ่นแห่งนี้ยังได้ใช้วิธีการแบบออร์แกนิกในการปลูก จนทำให้ได้รับการรับรองสำหรับการทำเกษตรอินทรีย์และชีวภาพในปี ค.ศ. 2016 ว่าเป็นสวนที่เป็นไบโอไดนามิก 100%

     Durfort Vivens นั้น จะมีรสชาติดีก็ต่อเมื่ออยู่ที่ 6-9 ปี โดยควรรินไว้ก่อนสัก 1-2 ชั่วโมง เพื่อทำให้ไวน์นุ่มและส่งกลิ่นหอม และควรเก็บรักษาในอุณหภูมิ 15.5 องศาเซลเซียส 60 องศาฟาเรนไฮต์ เพื่อทำให้ไวน์นั้นสดใหม่และอร่อยลิ้นนั่นเอง

 

error: Content is protected !!
Scroll to Top