Château Beau-Séjour Bécot

Château Beau-Séjour Bécot ไวน์ชั้นดีที่มีประวัติศาสตร์อันยาวนานแห่งบอร์โดซ์

       ประวัติความเป็นมาของไวน์ในฝรั่งเศสนั้น มีเรื่องราวที่เล่าขานกันมาอย่างยาวนานนับตั้งแต่อารยธรรมกรีกโบราณ นั่นจึงถือได้ว่าเป็นไวน์ฝรั่งเศสเริ่มมีอิทธิพลมาอย่างยาวนานนับพันปี และยิ่งการมาถึงของศาสนาคริสต์ อิทธิพลของไวน์ก็ยิ่งมีเพิ่มมากขึ้น จนส่งผลทำให้กลุ่มพระสงฆ์และขุนนางได้เริ่มปลูกองุ่น และได้ใช้มันในการผลิตไวน์มากขึ้น และหนึ่งในดินแดนที่มีการปลูกองุ่นและผลิตไวน์คือ แคว้นบอร์โดซ์ ด้วยสาเหตุสภาพทางภูมิศาสตร์ที่เอื้ออำนวยในการทำไวน์ ตั้งแต่เรื่องสภาพดิน ภูมิอากาศที่ไม่ร้อนจนเกินไป นั่นจึงทำให้ในเขตภูมิภาคนี้เป็นดินแดนของไวน์ชั้นดีของฝรั่งเศส โดยเฉพาะไวน์แดง และไวน์ที่เป็นยี่ห้อที่ยอดนิยมมานับตั้งแต่สมัยโบราณคือ Château Beau-Séjour Bécot

       Château Beau-Séjour Bécot ได้ถูกผลิตขึ้นมานับตั้งแต่ศตวรรษที่ 3 โดยชาวโรมันโบราณเมื่อ   2,000 ปีก่อน และเริ่มเป็นที่รู้จักกันมาขึ้นในที่ดินเขตวัดในแซ็งเตมีลียง ซึ่งได้รู้จักการปลูกองุ่นและนำมันมาผลิตเป็นไวน์ในภายหลัง และชื่อของ Château Beau-Séjour Bécot ก็มีชื่อเสียงกันในช่วงปี ค.ศ. 1787 ด้วยการพัฒนาของครอบครัว Carles de Figeac จนส่งผลทำให้นายพล Jacques de Carles ได้ตั้งชื่อที่ดินแห่งนี้ว่า Beau-Séjour และหลังจากนั้นมีอีกนับพันปี ความนิยมดังกล่าวนี้ก็ได้ถูกพัฒนาและมีการเปลี่ยนแปลงมาอยู่เรื่อย ๆ และยาวนาน จนกระทั่งมาถึงปี ค.ศ. 1970 ซึ่ง Gerard Becot ได้เข้ามาจัดการ ณ ที่แห่งนี้ ซึ่งส่งผลให้ในปี ค.ศ. 1979 พวกเขาได้ตัดสินใจสร้างไวน์จากองุ่นทั้งหมด ณ ที่แห่งนั้น ซึ่งนั่นทำให้เกิดการไม่ยอมรับอย่างมาก จนถึงขั้นถูกลดระดับไวน์ชั้นนำในปี ค.ศ. 1986 กันเลยทีเดียว ซึ่งเหตุการณ์ครั้งนี้ได้ถูกกอบกู้คืนหลังจากที่ได้มีการยื่นอุทธรณ์

       ปัจจุบัน ไร่องุ่นแห่งนี้มีพันธุ์องุ่น แมร์โลถึง 70% และกาแบร์เน-ฟรองถึง 23% รวมไปถึง กาแบร์เนโซ-วีญงอีกเล็กน้อย ซึ่งเถาองุ่นในดินแดนแห่งนี้มีอายุโดยเฉลี่ย 45 ปี และมีเถาองุ่นที่มีอายุมากที่สุดคือ 75 ปี นั่นก็คือ เถาองุ่นแมร์โล ส่วนในกรรมวิธีในการผลิตไวน์นั้น ผลองุ่นจะถูกหมักด้วยผลเบอร์รี่ทั้งต้น ในถัง       สแตนเลสซึ่งสามารถบรรจุ 80 ถึง 100 เฮกโตลิตร และสำหรับในการทำไวน์ Château Beau-Séjour Bécot ได้ใช้การบ่มในถังไม้โอ๊คฝรั่งเศสโดยเฉลี่ย 55% ซึ่งสามารถผลิตได้ถึง 7,500 ขวดเลยทีเดียว และการเก็บไวน์นี้ยังเก็บไว้ในอุณหภูมิ 15.5 องศาเซลเซียส 60 องศาฟาเรนไฮต์ เพื่อทำให้ไวน์มีความสดมากขึ้นนั่นเอง

      

Categories:

Related Article

error: Content is protected !!