Château Gruaud Larose Saint-Julien (Grand Cru Classé)

Gruaud Larose ไวน์ออแกนิคแห่งบอร์โดซ์

     ความหรูหราและความสะอาดที่เป็นไปตามกรรมวิธีในการผลิตนั้น เป็นสิ่งที่ยังเป็นเอกลักษณ์ของไวน์ที่ยังคงชวนน่าหลงใหลตั้งแต่ยุคสมัยก่อนของไวน์ในทวีปยุโรปที่ได้มีการพูดถึงกันมาอย่างยาวนาน เพราะถือว่าเป็นดินแดนที่มีการปลูกองุ่นไว้อย่างมากมาย โดยเฉพาะไวน์ฝรั่งเศส ซึ่งเป็นประเภทของไวน์ที่มีชื่อเสียงอย่างมาก ซึ่งมีประวัติความเป็นมานับตั้งแต่สมัยกรีกโบราณ จึงถือได้ว่าไวน์ฝรั่งเศสเป็นไวน์ที่อายุยืนยาวมานานนับพันปี และในตอนที่มีการมาถึงของศาสนาคริสต์ ก็ยังถือได้ว่าไวน์เป็นส่วนประกอบที่สำคัญอย่างมากในการประกอบพิธี ซึ่งนั่นจึงทำให้ในยุคกลาง มีพระสงฆ์ได้ปลูกองุ่นขึ้นและยังมีความรู้ในด้านการผลิตไวน์ รวมไปถึงในกลุ่มขุนนางด้วยเช่นกัน ซึ่งในฝรั่งเศสนั้นมีการปรากฏชนิดไวน์ที่มีชื่อเสียงอยู่ในหลาย ๆ ภูมิภาคไวน์ที่อยู่ในฝรั่งเศส หนึ่งในนั้นคือ แคว้นบอร์โดซ์ ซึ่งมีการผลิตไวน์ชั้นดี โดยเฉพาะไวน์แดง รวมไปถึงทั้งสภาพทางภูมิศาสตร์ที่เอื้ออำนวยในการทำไวน์ ตั้งแต่เรื่องสภาพดิน ภูมิอากาศที่ไม่ร้อนจนเกินไป นั่นจึงทำให้ในเขตภูมิภาคนี้เป็นดินแดนของไวน์ชั้นดีของฝรั่งเศส และหนึ่งในไวน์ที่มีการกำเนิดขึ้นคือ Gruaud Larose

     Gruaud Larose เกิดขึ้นในไร่ใน Chateau Graud Larose ซึ่งถือว่าเป็นสถานที่ที่มีชื่อเสียงอย่างมากใน Saint Julien ของแคว้นบอร์โดซ์ Grauud Larose มีประวัติอันยาวนานในชื่อ Saint Julien ซึ่งสถานที่แห่งนี้ มีเจ้าของคนแรกเป็นอัศวินที่มีชื่อว่า Joseph Stanislas Grauud พร้อมสมาชิกอีกสองคนของตระกูล Grauud เป็นปัจจัยสำคัญในการให้กำเนิดของ Graud Larose โดยคนหนึ่งเป็นผู้พิพากษา อีกคนเป็นนักบวช ซึ่งพวกเขาเป็นเจ้าของไร่องุ่นจำนวนมากในบอร์โดซ์ จนมีที่ดินร่วมกัน ซึ่งเรียกพื้นที่นั้นว่า Fond Bedeau และเพื่อรักษาความเท่าเทียมกันระหว่างพี่น้อง จึงทำให้ Fond Bedeau ที่สามารถผลิตไวน์นั้น ต้องแยกกันเป็น Chevalier de Grauud ซึ่งเป็นของนักบวชและ Abbe Grauud ซึ่งผลิตโดยผู้พิพากษา ซึ่งสำหรับ Chevalier de Grauud ได้กลายเป็นธุรกิจที่ประสบความสำเร็จตั้งแต่วันแรก และเพื่อให้ได้ราคาไวน์สูงสุด พวกเขาจึงได้คิดค้นแนวคิดใหม่ในการขายไวน์ในบอร์โดซ์ให้กับผู้ประมูลสูงสุดในการประมูลนั้นด้วย ซึ่งหลังจากนั้น สถานที่แห่งนี้ก็ถูกซื้อถูกขายอยู่หลาย ๆ ครั้ง จนกระทั่งในปี ค.ศ.1997 ได้ถูกซื้อโดย Jacques Merlaut Jacques Merlaut เป็นเจ้าของไร่องุ่นบอร์โดซ์อื่น ๆ มากมายภายใต้ Taillan Group และได้ผลิตไวน์ประเภทนี้สืบต่อหลังจากนั้นตั้งแต่นั้นมา

     Gruaud Larose นั้น จะมีรสชาติดีก็ต่อเมื่ออยู่ที่ 12 ปี โดยควรรินไว้ก่อนสัก 2-4 ชั่วโมง เพื่อทำให้ไวน์นุ่มและส่งกลิ่นหอม และควรเก็บรักษาในอุณหภูมิ 15.5 องศาเซลเซียส 60 องศาฟาเรนไฮต์ เพื่อทำให้ไวน์นั้นสดใหม่และรสชาติดีนั่นเอง

error: Content is protected !!
Scroll to Top