Malescot Saint Exupéry, Margaux

Malescot Saint Exupéry ไวน์โบราณกับการเปลี่ยนแปลงแบบใหม่ในบอร์โดซ์

          Calescot Saint Exupéry,กบอร์โดซ์ฒนาปละปรับปรุงเครื่องไม้เครื่องมือในการผลิตไวง จนมาถึงการเข้ามาซื้อที่ดินไวน์ที่มีคุณภาพอย่างยิ่ในบรรดาไวน์ที่เก่าแก่อย่างมากของทวีปยุโรป ซึ่งมีอยู่หลากหลายประเภทหรือชนิดนั้น ไวน์ฝรั่งเศส เป็นไวน์ที่มีการกล่าวถึงมาอย่างยาวนานและเป็นประเภทของไวน์ที่มีชื่อเสียงอย่างมาก และมีประวัติความเป็นมานับตั้งแต่สมัยกรีกโบราณ จึงถือได้ว่าไวน์ฝรั่งเศสเป็นไวน์ที่อายุยืนยาวมานานนับพันปีในแถบ         เมดิเตอร์เรเนียน จนกระทั่งการมาถึงของศาสนาคริสต์ ซึ่งถือได้ว่าไวน์เป็นส่วนประกอบที่สำคัญอย่างมากในการประกอบพิธี ซึ่งนั่นจึงทำให้ในยุคกลาง มีพระสงฆ์ได้ปลูกองุ่นขึ้นและยังมีความรู้ในด้านการผลิตไวน์ รวมไปถึงในกลุ่มขุนนางด้วยเช่นกัน ซึ่งในฝรั่งเศสนั้นมีการปรากฏชนิดไวน์ที่มีชื่อเสียงอยู่ในหลาย ๆ ภูมิภาคไวน์ที่อยู่ในฝรั่งเศส หนึ่งในนั้นคือ แคว้นบอร์โดซ์ ซึ่งมีการผลิตไวน์ชั้นดี โดยเฉพาะไวน์แดง รวมไปถึงทั้งสภาพทางภูมิศาสตร์ที่เอื้ออำนวยในการทำไวน์ ตั้งแต่เรื่องสภาพดิน ภูมิอากาศที่ไม่ร้อนจนเกินไป นั่นจึงทำให้ในเขตภูมิภาคนี้เป็นดินแดนของไวน์ชั้นดีของฝรั่งเศส และหนึ่งในไวน์ที่มีการผลิต ณ แค้วนบอร์โดซ์แห่งนี้ ซึ่งถือได้ว่าเป็นหนึ่งในไวน์ที่มีอายุเก่าแก่ที่สุดก็คือ Malescot Saint Exupéry

          Malescot Saint Exupéry ถือกำเนิดมาจากใน Chateau Malescot St. Exupery อันมีประวัติศาสตร์อันยาวนานในภูมิภาคไวน์บอร์โดซ์ และในปี ค.ศ. 1697 ที่ดินไวน์บอร์โดซ์ถูกขายให้กับ Simon Malescot เมื่อ Simon กลายเป็นเจ้าของคนปัจจุบันในขณะนั้น เขาก็ปฏิบัติตามประเพณีของยุคนั้นและเปลี่ยนชื่อที่ดินเป็น Malescot เช่นเดียวกับเจ้าของคนก่อน และตัวเขายังเป็นอัยการสูงสุดของ Louis XIV และหลังจากนั้นก็ถุกโยกย้ายเปลี่ยนมือไปอย่างมากมาย จนกระทั่ง ครอบครัว Zuger ได้เข้ามาซื้อมันในปี  ค.ศ. 1955 ครอบครัว Zuger มีประสบการณ์อย่างมากมายในบอร์โดซ์ โดยพวกเขาได้เปลี่ยนไร่แห่งนี้ให้มีคุณภาพอย่างสูงทั้งในเรื่องไร่องุ่นจนไปถึงเครื่องไม้เครื่องมือในการเก็บไวน์ จนมาถึงปัจจุบัน

          Malescot Saint Exupéry นั้น จะมีรสชาติดีก็ต่อเมื่ออยู่ที่ 10-12 ปี โดยควรรินไว้ก่อนสัก 2-3 ชั่วโมง เพื่อทำให้ไวน์นุ่มและส่งกลิ่นหอม และควรเก็บรักษาในอุณหภูมิ 15.5 องศาเซลเซียส 60 องศาฟาเรนไฮต์ เพื่อทำให้ไวน์นั้นสดใหม่และอร่อยลิ้นนั่นเอง

 

error: Content is protected !!
Scroll to Top