Pontet-Canet, Pauillac

Pontet-Canet ไวน์ยอดนิยมแห่งบอร์โดซ์

          ความเก่าแก่ที่ยังคงความคลาสสิคของประวัติศาสตร์ของไวน์โบราณที่ปรากฏในทวีปยุโรป โดยเฉพาะในไวน์ฝรั่งเศสที่เป็นประเภทของไวน์ที่มีชื่อเสียงอย่างมาก และมีประวัติความเป็นมานับตั้งแต่สมัยกรีกโบราณ จึงถือได้ว่าไวน์ฝรั่งเศสเป็นไวน์ที่อายุยืนยาวมานานนับพันปี รวมไปถึงการมาถึงของศาสนาคริสต์ ที่ส่งผลทำให้ในยุคกลาง มีพระสงฆ์ได้ปลูกองุ่นขึ้นและยังมีความรู้ในด้านการผลิตไวน์ รวมไปถึงในกลุ่มขุนนางด้วยเช่นกัน ซึ่งในฝรั่งเศสนั้นมีการปรากฏชนิดไวน์ที่มีชื่อเสียงอยู่ในหลาย ๆ ภูมิภาคไวน์ที่อยู่ในฝรั่งเศส หนึ่งในนั้นคือ แคว้นบอร์โดซ์ ซึ่งมีการผลิตไวน์ชั้นดี รวมไปถึงทั้งสภาพทางภูมิศาสตร์ที่เอื้ออำนวยในการทำไวน์ ตั้งแต่เรื่องสภาพดิน ภูมิอากาศที่ไม่ร้อนจนเกินไป นั่นจึงทำให้ในเขตภูมิภาคนี้เป็นดินแดนของไวน์ชั้นดีของฝรั่งเศส และหนึ่งในไวน์ที่มีการกำเนิดเกิดขึ้นนั้นก็คือ Pontet-Canet

          Pontet-Canet มีต้นกำเนิดมาจาก Chateau Pontet Canet ตามธรรมเนียมของวัน Chateau Pontet Canet ซึ่งในส่วนของชื่อนั้นมาจากอดีตเจ้าของ ซึ่งเป็นผู้ว่าการ Medoc นั่นก็คือ Jean-François de Pontet ก่อนที่จะมีเจ้าของอีกจำนวนมากในช่วงต้นศตวรรษที่ 18 Pontet สามารถขยายไร่องุ่นบอร์โดซ์ด้วยการซื้อไร่องุ่น Pauillac เพิ่มเติมด้วย ซึ่งหลังจากนั้น ที่แห่งนี้ก็มีการผลิตไวน์ด้วยเจ้าของมากหน้าหลายตามากมาย จนมากระทั่งเมื่อ Alfred Tesseron เข้ามาบริหารที่ดินในปี 1994 ที่ดินแห่งนี้ก็ได้รับการพัฒนาอย่างต่อเนื่องทุกปี ซึ่งตัวเขามีแนวคิดที่น่าสนใจและเป็นปรัชญาเกี่ยวกับสิ่งที่พวกเขาทำที่ Chateau Pontet Canet ในปัจจุบัน ในการสัมภาษณ์ที่เราทำ เขาได้ให้สัมภาษณ์ว่า “ฉันไม่ใช่ผู้ผลิตไวน์ สมาชิกในทีมของฉันไม่ใช่ผู้ผลิตไวน์เช่นกัน เนื่องจากงานส่วนใหญ่ทำในไร่องุ่น เราเป็นคนปลูกองุ่น ความสำเร็จของเราที่ Pontet Canet เกิดจากความพยายามของเราในไร่องุ่น ไม่ใช่การผลิตไวน์ สุดท้ายนี้ เป้าหมายของเราคือผลิตเหล้าองุ่น Pontet Canet ที่มีเอกลักษณ์เฉพาะสำหรับดื่ม ไม่ใช่แค่สำหรับชิมไวน์” นั่นเป็นคำอธิบายที่เหมาะอย่างยิ่งสำหรับ Alfred Tesseron ผู้ซึ่งครั้งหนึ่งเขาอยากเป็นเกษตรกร แม้ว่าเขาจะได้รับปริญญาด้านวิทยาศาสตรมหาบัณฑิต เมื่อคุณคิดเกี่ยวกับเรื่องนี้ Alfred Tesseron บรรลุเป้าหมายของเขาแล้ว

          Pontet-Canet นั้น จะมีรสชาติดีก็ต่อเมื่ออยู่ที่ 10-15 ปี โดยควรรินไว้ก่อนสัก 2-4 ชั่วโมง เพื่อทำให้ไวน์นุ่มและส่งกลิ่นหอม และควรเก็บรักษาในอุณหภูมิ 15.5 องศาเซลเซียส 60 องศาฟาเรนไฮต์ เพื่อทำให้ไวน์นั้นสดใหม่และอร่อยลิ้นนั่นเอง

Categories:

Related Article

error: Content is protected !!